สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ขยายสัญญากับ มิโลวาน ราเยวัช กุนซือทีมชาติไทย ออกไปถึงปี 2020 ยุติการคาดเดาอนาคตของกุนซือชาวเซิร์บที่ยังไม่มีคำตอบมานานหลายเดือน ราเยวัชได้เข้ามาคุมทีมชาติไทยเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว หลังจากอดีตนักเตะทีมชาติไทย เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ลาออกจากตำแหน่ง นับตั้งแต่ได้รับการแต่งตั้ง ราเยวัชก็ช่วยให้ทีมชาติไทยรักษาแชมป์รายการคิงส์คัพไว้ได้เมื่อปีที่แล้ว พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ประธานสมาคมฟุตบอลฯ เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า “เราได้ตกลงกับ มิโลวาน ราเยวัช กุนซือทีมชาติไทยแล้ว และสมาคมฯ ได้ต่อสัญญาใหม่ให้เขาทำงานต่ออีก 2 ปี”
“ราเยวัชจะรับผิดชอบทีมชาติไทยที่จะลงแข่งขันในรายการเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 และเอเอฟซี เอเชียน คัพ 2019” “เราได้ขยายสัญญาออกไปอีก 2 ปี แต่มีเงื่อนไขที่อนุญาตให้เราประเมินผลงานของเขาได้เป็นระยะๆ” “ที่สำคัญที่สุด เขาได้รับมอบหมายให้นำทีมชาติไทยเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ของเอเอฟซี เอเชียน คัพ ปีหน้า ซึ่งหลังจากนั้น เราจะประเมินผลงานของเขาอีกครั้ง” ราเยวัชกล่าวว่า “งานแรกของผมคือการช่วยให้ไทยป้องกันแชมป์คิงส์คัพได้สำเร็จ” ปีนี้จะเป็นงานที่ยากสำหรับเรา เพราะงานนี้จะจัดขึ้นในช่วงพักเบรกฟีฟ่า และทุกประเทศที่เข้าร่วมจะพยายามส่งทีมที่ดีที่สุดของตนเข้าร่วมการแข่งขัน”คิงส์คัพ 2018 จะแข่งขันระหว่างวันที่ 23-25 มีนาคม โดยทีมชาติกาบอง สโลวาเกีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จะร่วมกับไทยเจ้าภาพ ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ชายชาวเซิร์บวัย 64 ปีกล่าวเพิ่มเติมว่าเขากำลังวางแผนที่จะเรียกนักเตะไทยที่เซ็นสัญญากับสโมสรในเจลีกสำหรับคิงส์คัพกลับมา “ตอนนี้ ผมไม่สามารถบอกได้ว่าใครจะเป็นสมาชิกของทีมชาติไทยสำหรับเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ในช่วงปลายปีนี้ แต่สำหรับคิงส์คัพ เราจะเรียกนักเตะทุกคนที่ไปเล่นต่างประเทศ” ราเยวัชกล่าว “คิงส์คัพจะแข่งขันในช่วงพักเบรกฟีฟ่า ดังนั้นสโมสรต่างๆ จะต้องปล่อยตัวนักเตะเพื่อทำหน้าที่ทีมชาติตามกฎของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ” อย่างไรก็ตาม ผมจะ โดยจะสังเกตผู้เล่นทุกคนในการแข่งขันภายในประเทศ เพื่อค้นหาผู้เล่นที่ดีสำหรับการแข่งขันเหล่านี้” การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน AFF Suzuki Cup 2018 ซึ่งเป็นการแข่งขันชิงแชมป์สำหรับประเทศที่สังกัดสหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน (AFF) จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8 พฤศจิกายนถึง 15 ธันวาคม โดยไทยคว้าแชมป์ระดับภูมิภาคเป็นสมัยที่ 5 เมื่อเดือนธันวาคม 2559 เมื่อเอาชนะอินโดนีเซียในรอบชิงชนะเลิศสองนัด
